วันอาทิตย์, มกราคม 08, 2560

นักการเมืองพวกล้าหลัง





น้ำท่วมใต้ยังไม่ทุเลา ให้เวลาพวกนักการเมืองเจ้าที่ กับนักกวนเมืองเจ้าท่า ออกล่าหาคะแนนนิยมที่หลุดหายไป

(“วันนี้ 8 ม.ค.60...กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภาคใต้ยังมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก” http://news.thaipbs.or.th/content/259353)

นายหัว สุเทือก และสาวตั๊น เล่นลุยน้ำ ออกเรี่ยไร และไล่แจกของชำร่วย กันคึกคัก

รายอดีตนายกฯ และหัวหน้าพรรค ปชป. ต่อสายตรงถึง รมว.คมนาคม บ่นเรื่องค่าตั๋วเครื่องบินลงใต้แพงไป สงสัยจะเป็นห่วงว่าทำให้นักการเมืองของพรรคขลุกขลักบินไปลุยน้ำหาเสียงกันไม่ถ้วนหน้าละมั้ง

ก็สถานการณ์น้ำหลากท่วม ๑๓ จังหวัดนี่น่ะ สิ่งที่ต้องการเวลานี้คือเรือท้องแบนให้เพียงพอเข้าไปขนชาวบ้านที่ยังติดค้างบนเล่าเต๊งและหลังคา ออกมาโดยไว

ว่าตามตรงนะ ทั้งฮอและเรือดันน้ำก็ยังไม่มีประโยชน์มากเท่า เพราะพายุฝนระลอกใหม่กำลังจะมาอีก มัวแต่ดันน้ำเก่า น้ำใหม่ดันสวน ชักคะเย่อกันชาวบ้านไม่มีโอกาสหนี

บางท้องที่มีรายงานว่าสตรีคลอดลูกใหม่ๆ ไม่มีเรือเข้าไปช่วยพาออกมาหาที่ดอน

แต่นักการเมืองประชาธิปัตย์อย่างน้อย ๓ คน “นายราเมศ รัตนะเชวง นายวรงค์ เดชกิจวิกรม และนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์” กลับใส่ใจแต่ว่า

“หากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกาศใช้คดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้สิทธิในการอุทธรณ์ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในทันทีไม่จำเป็นต้องมีพยานหลักฐานใหม่”

นายราเมศนั้นอ้างหัวหน้าพรรค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ “เคยทักท้วงไปแล้วแต่ไม่ได้รับการแก้ไข”

ส่วนนายชาญชัยซักค้านจำเลยเสียเองว่า “จะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้จำเลยที่อุทธรณ์เพื่อประวิงเวลายื้อคดีให้เพื่อหลบหนีไปต่างประเทศหรือไม่”

(http://www.posttoday.com/politic/474366)

พูดไม่มีหูรูดกันอย่างนี้ย่อมร้อนถึงผู้เป็นทนายว่าคดีให้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องสวนทางเสียบ้าง วันนี้เช่นกันมีรายงานข่าวว่านายนรวิชญ์ แหล่งหล้า “ตั้งข้อสังเกตุ” ชี้แจงถึงผลกระทบของรัฐธรรมนูญใหม่ว่า

“ความจริงแล้วรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นการเพิ่มภาระแก่จำเลย เพราะแม้ว่าศาลจะพิพากษายกฟ้องโจทก์ แต่คดีก็ยังไม่เป็นที่สุดโจทก์ยื่นอุทธรณ์ได้ ซึ่งแตกต่างจากรัฐธรรมนูญปี ๒๕๕๐”

(http://www.springnews.co.th/th/2017/01/14184/)





อันนี้เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้พูดไว้แล้วเมื่อวันก่อน (๖ ม.ค.) “รัฐธรรมนูญใหม่ที่ผ่านประชามติ ในหมวดศาลมีการกำหนดให้ ‘คู่ความ’ สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ และสามารถอุทธรณ์ได้ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย...

การอุทธรณ์ดังกล่าวจะสามารถยื่นได้ทั้งอัยการและฝ่ายผู้ต้องโทษตามคำพิพากษา”

โดยที่ของเดิมในรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ “นั้นกำหนดเรื่องการให้อุทธรณ์ได้ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา และจะสามารถอุทธรณ์ได้เฉพาะผู้ต้องคำพิพากษาเท่านั้น ซึ่งก็คือฝ่ายจำเลย”

(http://www.matichon.co.th/news/417919)

นายอธิคม อินทุภูติ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมอธิบายด้วยว่าตามรัฐธรรมนูญ ๕๐ องค์ประกอบสำคัญในการยื่นอุทธรณ์ของจำเลยนั้นคือ “จะต้องมีพยานหลักฐานใหม่ที่อาจทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ” อันเป็นเรื่องยาก

“จึงเห็นได้ว่าจำเลยที่ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาคดีในศาลฎีกาฯ นักการเมือง ศาลจะยกคำร้องหมด เพราะไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่” และ

“คดีที่ตัดสินหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้จะอุทธรณ์ได้เลยโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องมีพยานหลักฐานหรือข้อเท็จจริงใหม่ โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งรวมถึงคดีโครงการรับจำนำข้าว”





การตีความเช่นนี้กระมังที่ทำให้นักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ร้อนตัวกันใหญ่ เป็นห่วงว่าคู่แข่งสำคัญที่พวกตนไม่เคยเอาชนะได้ จะหลุดคดีมาเป็นก้างขวางคอหากมีการเลือกตั้งครั้งใหม่

ในส่วนที่พูดพล่อยเรื่อง “หลบหนีไปต่างประเทศ” ทนายของยิ่งลักษณ์ย้อนให้ “ที่นายราเมศฯ ออกมาพูดถึงว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นการเอื้อประโยชน์แก่คดีจำนำข้าว ที่อยู่ระหว่างพิจารณาของศาลฏีกาฯ นั้น

“ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะเป็นการก้าวล่วง และชี้นำคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกา”

เฮ้อ เหนื่อยใจกับนักการเมืองพวกล้าหลังเหล่านี้เสียจริง ลุงตูบนักยึดอำนาจเพื่อประชาธิปไตยถึงได้บ่นอู้เมื่อวานว่า ทำตัวเป็น ‘เต่า’ กันอยู่ได้ ตามลุงไม่ทันเสียเลย

เดี๋ยวนี้บิ๊กตู่เป็นนักประชาธิปไตยก้าวหน้าขนาดจะเอาอย่างแคนาดาเสียด้วยแน่ะ “นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมแคนาดาภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ซึ่งบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีธรรมาภิบาล” ข่าวว่างั้น

(http://www.matichon.co.th/news/417464)

“โดยนายกรัฐมนตรีได้ใช้แคนาดาเป็นตัวอย่างในการบริหารไทยเช่นกัน” อันนี้จะมีใครคอนเฟิร์มได้บ้างหละ





กะอีแค่คดี ไผ่ ดาวดิน ถูกเจ้าพนักงานกล่าวหาโพสต์เฟชบุ๊คเยาะเย้ย ซึ่งไม่ใชอาชญากรรมร้ายแรงอะไร ไม่มีประเทศไหนเขาจับคนไปขังเพราะถากถางรัฐบาลเหมือนประเทศนี้ แม้แต่ตัวบทกฎหมายโดยตรงก็ไม่มี

แต่ศาลไทยก็ใช้วิจารณญานตามอำเภอใจ สั่งถอนประกันให้ไผ่ไปนอนคุกอีกผัดหนึ่งจนได้ จึงมีการรณรงค์ให้ร่วมลงชื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้แก่ไผ่ที่ change.org

ตามลิ้งค์นี้ https://www.change.org/p/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5-%E0%B8…

นอกนั้นยังจะมีการยื่นหนังสือต่อกรรมการสิทธิมนุษยชน ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ วันอังคารที่ ๑๐ มกราคมนี้ เวลา ๙.๓๐ น. เขาชักชวนไปร่วมให้กำลังใจกันพร้อมหน้าด้วย