วันเสาร์, ธันวาคม 03, 2559

มาแล้วนะ ‘ล่าแม่มด’ รัชกาลใหม่ มาไวดังคาด





มาแล้วนะ ‘ล่าแม่มด’ รัชกาลใหม่ มาไวดังคาด

หลังจากรายงานของบีบีซีไทย เรื่อง ‘พระราชประวัติกษัตริย์พระองค์ใหม่ของไทย’ ได้รับการแพร่หลายแบ่งปันกันเกือบสามพัน กดชอบกดรักกดพอใจอีกเกือบสามหมื่น ก่อนที่หลายๆ เส้นทางเข้าถึงบนอินเตอร์เน็ตจะถูก ‘บล็อค’

นำร่องทันใจ hyperboles ทั้งหลาย เรื่องอย่างนี้หนีไม่พ้นแท้ปลอยโหนเจ้า ‘ทีนิวส์’ ที่เล่นซีรี่ส์ ‘ลากไส้บีบีซีไทย’ มาแล้วหลายตอน ถึงที่สุดเสี้ยมให้จัดการกับผู้เป็นบรรณาธิการ

“น่าจะถือได้ว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๑๒ จึงสมควรอย่างยิ่งที่ผู้มีอำนาจจะได้เรียกตัวบรรณาธิการบีบีซีไทยผู้นี้มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”

ซึ่งก็มีคนที่โดน ๑๑๒ จากกรณีนี้แล้ว แต่ไม่ใช่หลายๆ คนที่ทีนิวส์พยายามใส่ความ หากแต่เป็นเหยื่อไล่ล่าของทหาร เพราะเขาเป็นนักกิจกรรมประชิปไตยและต่อต้านการรัฐประหาร คสช.





ไผ่ ดาวดิน หรือนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นักศึกษานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถูกจับกุมระหว่างร่วมกิจกรรมเดินธรรมยาตราเพื่อลุ่มน้ำลำปะทาวกับพระไพศาล วิศาโล ที่อำเภอแก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ

ตำรวจนอกเครื่องแบบนำหมายศาลไปอ่านฟังก่อนการจับกุม ระบุว่า พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี รองหัวหน้ากองยุทธการจากมณฑลทหารบกที่ ๒๓ จังหวัดขอนแก่น เป็นผู้แจ้งความ

(https://www.facebook.com/lawyercenter2014/photos/a.668860109830513.1073741828.668420999874424/1153582438024942/?type=3&theater)





ข้อเขียนของทีนิวส์ที่พยายามโยงบรรณาธิการบีบีซีไทย (เมื่อครั้งเป็นรองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์) เข้ากับสื่อฝ่ายประชาธิปไตยสองสามราย โดยยกเอาการเสวนาที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศในกรุงเทพฯ เนื่องในโอกาสวันเสรีภาพสื่อโลกเมื่อเดือนพฤษภาคมกลางปีนี้ เรื่อง ‘สื่อไทยมีเสรีภาพเพียงใดในปัจจุบัน’ มาเป็นต้นเหตุ





ไม่ว่าจะเป็นผู้ร่วมอภิปรายอย่าง ผอ.ประชาไท ผู้สื่อข่าวว้อยซ์ทีวี เจ้าหน้าที่ SEAPA หรือแม้แต่ผู้ดำเนินรายการ นายสตีฟ เฮอร์แมน กรรมการบริหาร FCCTและหัวหน้าสำนักข่าวเสียงจากอเมริกาประจำภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งเอกอัคราชทูตสหรัฐและภริยา ซึ่งไปร่วมรายการ

ถูกทีนิวส์เหมารวมเป็นนัยอย่างหมิ่นประมาทว่า “เห็นหน้าตาเห็นความสัมพันธ์ของคนกลุ่มนี้แล้วคงเก็ทกันซะที คงไม่ต้องอธิบายอีกแล้ว”

ไม่เพียงเท่านั้น ทีนิวส์ยังเก็บเอาการที่ “บก.บีบีซีไทย เคยสัมภาษณ์ทักษิณ ชินวัตร ในสมัยที่ยังเป็นผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์” กับกรณี “ความสัมพันธ์ระหว่างบีบีซีไทยกับฟอร์บส์ ซึ่งมีบรรณาธิการข่าวคนเดียวกัน” มาตั้งเป็นข้อกังขาใส่ไคล้ว่า

“คงพอจะอนุมานได้ว่าการนำเสนอข่าวของบีบีซีไทยทั้งที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มีจิตเจตนาใดอยู่”





บทความปั่นป่วนกวนกระแสของทีนิวส์ได้ผล มีคนของขึ้น ผู้ใช้ชื่อเฟชบุ๊คว่า Pattanadesh Asasappakij บอกว่า “ถ้าผมเจอคนที่ทำงานกับบีบีซี ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ผมจะฉีกกระดาษชิ้นเล็กๆ ทิ้งลงไปตรงหน้าเขา...

เพื่อเป็นการประท้วงให้เขารู้ว่า เขาเป็นเพียงแค่เศษกระดาษเปื้อนหมึก เขาไม่ใช่สื่อ เขาคือตัวอัปรีย์จัญไรสำหรับผม”

เจ้าของเพจผู้นี้เป็นคนดี-เด่น-ดังแค่ไหนไม่ทราบได้ แต่มีผู้ติดตามที่เอ่ยถึงเขาว่าอาจารย์บ้าง น้าเดชบ้าง ไปร่วมคอมเม้นต์กันมันหยด

“มันไม่ควร อยู่บนแผ่นดินนี้” ผู้ใช้รูปอวตารหน้าเหมือนผีเปิดฉากบริภาษณ์

“ชาติชั่ว สารเลว” “ชั่วช้า” อีกสองรายต่อมาอาการชักร้อน และเริ่มรุนแรง “น่าจะมีวิธีการจัดการกับ BBC นะ พูดเรื่องนี้เเล้วขึ้น”

ก่อนจะมีคนทิ้งหมัดเด็ดลงภาพอักษรภาษาอังกฤษตัวยักษ์ อ่านได้สำเนียงว่า “ฟุค บีบีซี”

โอว นี่คนไทยรักพระเจ้าอยู่หัวองค์ใหม่อย่างเหี้ยมหาญไม่แพ้ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวองค์ก่อนเลย คราวก่อนไล่ทูตอเมริกัน คราวนี้จะขับสื่ออังกฤษ

แต่กระนั้นก็ยังไม่เด็ดเท่าเมื่อสองสามวันก่อน เมื่อ สนช. คน ‘ดี-เด่น-ดัง’ อย่างนายสมชาย แสวงการ เกิดของขึ้นทางหน้าเฟชบุ๊คเช่นกัน เกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒





สมาชิกสภานิติบัญญัติรายนี้มั่วเอามัน (ละมั้ง) กล่าวหา “UNHCR ได้กระทำความผิดด้วยการดำเนินการช่วยเหลือส่งผู้ต้องหาอาญาของไทยไปพักอย่างต่างประเทศ โดยเฉพาะนายเอกภพ เหลือรา”

(http://www.matichon.co.th/news/380318)

เขาอ้างว่าสำนักงานข้าหลวงใหญ่สหประชาชาติช่วยให้ผู้ต้องหา ๑๑๒ “ไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่ประเทศนิวซีแลนด์”

เขาจึงออกมาชวนให้คนไทยหยุดบริจาคและสนับสนุน UNHCR กันเสีย

อุแม่เจ้า เงินบาทของ สนช. แสวงการนี่ ‘แข็ง’ จริงๆ วันนี้เท่าไหร่นะ ๓๕.๖ ต่อ ๑ ดอลล์ น่าใจหาย ถ้าคนไทยหยุดบริจาคกันละก็ สนง. ข้าหลวงใหญ่ยูเอ็น เจ๊งแน่

ooo